วิธีล้างหม้อน้ำรถยนต์
วิธีล้างหม้อน้ำรถยนต์
วิธีล้างหม้อน้ำรถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำของรถยนต์ด้วยตัวเอง และล้างเครื่องที่มีคราบสนิมติดอยู่ภายในให้สะอาดและถูกวิธี น้ำยาหม้อน้ำเองก็มีความสำคัญอย่างมากเพราะมันสามารถช่วยยึดอายุของปั้มน้ำในรถยนต์ได้ หม้อน้ำที่ทำมาจากทองแดง และหม้อน้ำที่ทำมาจากอลูมิเนียม จะต้องใช้น้ำยาสำหรับล้างต่างชนิดกัน น้ำยาที่ใช้กับหม้อน้ำที่ทำมาจากทองแดงมันจะกัดพวกอลูมีเนียมให้ทุกท่านเลือกใช้น้ำยากันอย่างระมัดระวังและอย่าใช้ร่วมกันอย่างเด็ดขาด หม้อน้ำหม้อน้ำแบบที่ทำมาจากทองแดงจะสามารถถอดล้างได้แต่แบบอลูมิเนียมจะไม่สามารถถอดล้างได้และต้องเปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
อันดับแรกต้องถ่ายน้ำออกจากหม้อน้ำในรถยนต์ให้หมด ซึ่งโดยส่วนมากแล้วปลั๊กจะอยู่มุมล่างซ้ายของรถยนต์หากเราหันหน้าเข้าหาหน้ารถยนต์ซึ่งปลั๊กจะมีหลายขนาดด้วยกัน สามารถถอดได้โดยการหมุนออกเมื่อหมุนออกมาได้แล้วก็รอให้น้ำในหม้อน้ำไหลออกมาจนหมด เพื่อให้คราบสนิมไหลออกมาจนหมด เพราะสนิมจะทำให้แผงหม้อน้ำ ซึ่งภายในจะมีหลอดหม้อน้ำอยู่ภายในเกิดการอุดตัน ทำให้การหล่อเย็นของการหล่อน้ำของรถยนต์เกิดการขัดข้องและอาจจะมีปัญหาได้ ต้องหมั่นเปลี่ยนน้ำในหม้อน้ำ โดยอายุการใช้งานทั่วไปของรถที่มีหม้อน้ำแบบทองแดง จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี ซึ่งในทุกๆ 2 ปี ควรมีการเปลี่ยนน้ำในหม้อน้ำ 1 ครั้ง หรือมากกว่า และหม้อน้ำอีกจุดหนึ่งจะอยู่ใต้ปั้มข้างเครื่องยนต์ของรถซึ่งจะมีปลั๊กหัวยาวโผล่ออกมาจากข้างเครื่อง ซึ่งจะเป็นปลั๊กข้างเครื่องซึ่งใช้ประแจเบอร์ 12 ในการคลายออกถ้าหาก ไม่มีประแจเบอร์ 12 ก็จะสามารถทำได้เช่นกันแต่มีความลำบากกว่ามากนั่นก็คือการเติมน้ำเปล่าเข้าไปในหม้อน้ำเพื่อให้น้ำที่อยู่ด้านในไหลออกมา และเมื่อน้ำที่อยู่ภายในหม้อน้ำรถยนต์ไหลออกมาจนหมด เราก็จะเติมน้ำเปล่าเพื่อไล่ตะกอนและเศษสนิมที่ค้างอยู่ในหม้อน้ำออก ข้อควรระวังสำหรับบางท่านที่มักจะใช้น้ำเปล่าผสมกับผงซักฟอกในการล้างตะกอนและเศษสนิมที่อยู่ภายในหม้อน้ำรถยต์ซึ่งตัวผงซักฟอกจะมีสารสำหรับกัดกร่อน เพราะมีส่วนผสมของโซดาไฟหรือเบกกิ้งโซดาถ้าหากตกค้างอยู่ภายในก็จะเกิดการกัดกร่อนจนเกิดสนิมและอาจทำให้รถยนต์ของเรามีปัญหาได้ จึงแนะนำให้ใช้น้ำเปล่าในการไล่สิ่งสกปรกที่อยู่ภายในเครื่องเท่านั้น ระหว่างเติมน้ำเปล่าเข้าไปภายในเครื่องก็ให้เช็คดูว่าน้ำที่ไหลออกมาจากเครื่องนั้นเป็นสีใสแล้วหรือยัง ถ้าหากยังก็ต้องเติมน้ำเปล่าเข้าไปในเครื่องจนกวาน้ำที่ไหลออกจากเครื่องยนต์จะเป็นสีใสเหมือนน้ำเปล่า เมื่อน้ำที่ไหลออกมาเป็นสีใสแล้วให้เราหยุดการเติมน้ำปล่าเข้าไปในเครื่องและรอให้น้ำเปล่าที่ยังค้างอยู่ภายในเครื่องไหลออกมาจนหมด หลังจากนั้นก็ให้เราทำการปิดปลั๊กทั้งหมดที่เราเปิดออกแต่ไม่ต้องหมุนจนแน่นจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้หัวปลั๊กเสีย หรือเกลียวปลั๊กพังได้ ขั้นตอนต่อไปใช้น้ำยาสำหรับล้างระบบภายในซึ่งควรใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับล้างเครื่องเท่านั้นไม่ควรใช้น้ำยาผสมผมซักฟอก หรือน้ำยาล้างห้องน้ำเพราะจะทำให้เกิดการกัดกร่อนภายในเครื่องและทำให้เกิดสนิมได้ หลังจากนั้นเติมน้ำเปล่าให้เต็มในช่วงนี้เราจะสังเกตุได้ว่าหลังจากที่เราเทน้ำยาล้างลงไปแล้วเศษสนิมที่เกาะอยู่จะเริ่มหลุดออกไปบ้างแล้ว เมื่อเราเทน้ำเปล่าจนเต็มก็ทำการปิดฝาหม้อน้ำได้เลย ถ้าหากใครที่เป็นมือใหม่ก็สามารถอ่านขั้นตอนการใช้งานที่ติดอยู่ข้างขวดน้ำยาล้างเครื่องได้ ซึ่งจะมีวิธีการงานเบื้องต้น และเมื่อทำตามขั้นตอนข้างต้นเสร็จแล้วก็ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที หลังจากนี้เมื่อเครื่องเริ่มร้อนให้เราเร่งเครื่องยนต์ โดยใช้รอบประมาณ 1500 ค้างไว้ซักระยะหนึ่ง เพื่อให้ปั้มน้ำไล่น้ำให้หมุนเวียนในระบบให้ดีขึ้น และทำให้แรงดันน้ำเยอะขึ้นเพื่อให้มีการปัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในเครื่องหลุดออกมา จากนั้นเช็คอุณหภูมิของตัวเครื่องที่อยู่ตรงหน้าปัดหน้ารถเพื่อเช็คว่าเครื่องยนต์ร้อนแล้วหรือยัง ถ้าหากเครื่องร้อนแล้ว ก็ให้เราทำการเร่งเครื่องยนต์ได้เลย การเร่งเครื่องแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 20 วินาที และหยุดพักซักครู่และทำซ้ำอีกประมาณ 2-3 รอบ สำหรับรถทุกคันที่มีแผงหม้อแบบทองแดงสามารถล้างหม้อน้ำรถยนต์โดยใช้วิธีการนี้ได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าหากเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องแบบอลูมิเนียมก็ให้ล้างหม้อน้ำในรถยนต์โดยการใช้น้ำเปล่าล้าง หรือจะใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับล้างหม้อน้ำรถยนต์ที่มีเครื่องแบบอลูมิเนียมเท่านั้นไม่ควรใช้น้ำยาชนิดเดียวกันอย่างเด็ดขาด เมื่อทำตามขั้นตอนข้างจ้นครบแล้วก็ให้ดับเครื่องแล้วเปิดฝาหม้อน้ำโดยการกดฝาเอาไว้เพราะจะมีแรงดันน้ำพุ่งออกมาจึงต้องใช้มือกดฝาเอาไว้ เมื่อเปิดฝามาควรเช็คยางที่ติดอยู่กับฝาปิดให้ดีไม่ควรให้ฝาฉีกขาดหรือมีความเสียหายเกิดขึ้นเพราะจะทำให้น้ำรั่วออกมาด้านนอกและเครื่องร้อนเร็วกว่าปกติเนื่องจากฝาจะเก็บความดันไม่อยู่นั้นเอง ขั้นตอนต่อมานั้นก็จะเป็นการปล่อยน้ำยาล้างเครื่องยนต์ออกจากหม้อน้ำ น้ำที่ปล่อยออกมารอบนี้จะมีอุณหภูมิที่อุ่นกว่าปกติแต่ถือว่าไม่มีปัญหาเพราะยังอุณหภูมิที่สามารถกัดกร่อนได้ จากนั้นก็ไปเปิดปลั๊กข้างเครื่องแต่ควรระวังไม่ให้น้ำยาล้างเครื่องยนต์เข้าดวงตาเพราะอาจเกิดอันตรายกับดวงตาได้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เติมน้ำและทำการปิดปลั๊กตรงหน้าเครื่องได้เลยข้อควรระวังอีกประการหนึ่งคือหม้อน้ำจะมียางซีนติดอยู่อย่าแกะออกเด็ดขาดเพราะถ้าหากแกะออกจะต้องเปลี่ยนใหม่ทันที แต่บางรุ่นที่ยางซีนติดมากับตัวปลั๊กเลยจะไม่มีปัญหา ให้ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นได้เลย พอเราปิดปลั๊กแล้วก็เติมน้ำเปล่าลงไปอีกครั้งรอบนี้น้ำจะไหลออกด้านข้างเครื่อง ที่เราจำเป็นต้องปิดปลั๊กตรงเครื่องเพราะจะได้ให้น้ำล้างสิ่งตกค้างภายในเครื่องและให้ไหลออกไปด้านข้างเครื่องนั้นเอง ถ้าหากเราไม่ปิดปลั๊กหม้อน้ำน้ำก็จะไหลออกทางหม้อน้ำทั้งหมด ทำให้เราไม่สามารถล้างสิ่งที่ติดอยู่ในตัวเครื่องยนต์ให้สะอาดได้ หลังจากที่เรามั่นใจว่าน้ำที่ไหลออกมาจากด้านข้างเครื่องสะอาดแล้วเราก็จะเปิดปลั๊กใต้หม้อน้ำใหม่อีกรอบหนึ่ง หลังจากที่เราเปิดปลั๊กแล้วก็เติมน้ำเพื่อล้างหม้อน้ำอีกครั้ง และเมื่อล้างหม้อน้ำเสร็จให้เราปิดปลั๊กและเติมน้ำอีกครั้งที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมาหลาย รอบก็เพราะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์ของเราจะสะอาดแน่นอน และในรอบนี้ให้หลังจากที่เราปิดปลั๊กหม้อน้ำแล้วนั้นให้เราปิดปลั๊กที่ข้างเครื่องด้วย หลังจากเราปิดทั้งสองด้านแล้วก็ให้เติมน้ำเปล่าเข้าไปเมื่อเติมจนเต็มแล้ว ก็ให้เอาปลั๊กออกจากข้างเครื่องรอบนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าน้ำที่ไหลออกมาจะมีสีที่ใสขึ้นซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่ามีตะกอน สนิม หรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในเครื่องเราน้อยลงไปมาก ในขณะนี้เราจะเปิดน้ำให้ไหลออกทางด้านข้างเครื่องโดยที่ยังปิดปลั๊กข้างเครื่องไว้ แต่ถ้าหากเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องแบบอลูมิเนียมก็ให้ล้างหม้อน้ำในรถยนต์โดยการใช้น้ำเปล่าล้าง หรือจะใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับล้างหม้อน้ำรถยนต์ที่มีเครื่องแบบอลูมิเนียมเท่านั้นไม่ควรใช้น้ำยาชนิดเดียวกันอย่างเด็ดขาด เมื่อทำตามขั้นตอนข้างจ้นครบแล้วก็ให้ดับเครื่องแล้วเปิดฝาหม้อน้ำโดยการกดฝาเอาไว้เพราะจะมีแรงดันน้ำพุ่งออกมาจึงต้องใช้มือกดฝาเอาไว้ เมื่อเปิดฝามาควรเช็คยางที่ติดอยู่กับฝาปิดให้ดีไม่ควรให้ฝาฉีกขาดหรือมีความเสียหายเกิดขึ้นเพราะจะทำให้น้ำรั่วออกมาด้านนอกและเครื่องร้อนเร็วกว่าปกติเนื่องจากฝาจะเก็บความดันไม่อยู่นั้นเอง ขั้นตอนต่อมานั้นก็จะเป็นการปล่อยน้ำยาล้างเครื่องยนต์ออกจากหม้อน้ำ น้ำที่ปล่อยออกมารอบนี้จะมีอุณหภูมิที่อุ่นกว่าปกติแต่ถือว่าไม่มีปัญหาเพราะยังอุณหภูมิที่สามารถกัดกร่อนได้ จากนั้นก็ไปเปิดปลั๊กข้างเครื่องแต่ควรระวังไม่ให้น้ำยาล้างเครื่องยนต์เข้าดวงตาเพราะอาจเกิดอันตรายกับดวงตาได้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เติมน้ำและทำการปิดปลั๊กตรงหน้าเครื่องได้เลยข้อควรระวังอีกประการหนึ่งคือหม้อน้ำจะมียางซีนติดอยู่อย่าแกะออกเด็ดขาดเพราะถ้าหากแกะออกจะต้องเปลี่ยนใหม่ทันที แต่บางรุ่นที่ยางซีนติดมากับตัวปลั๊กเลยจะไม่มีปัญหา ให้ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นได้เลย พอเราปิดปลั๊กแล้วก็เติมน้ำเปล่าลงไปอีกครั้งรอบนี้น้ำจะไหลออกด้านข้างเครื่อง ที่เราจำเป็นต้องปิดปลั๊กตรงเครื่องเพราะจะได้ให้น้ำล้างสิ่งตกค้างภายในเครื่องและให้ไหลออกไปด้านข้างเครื่องนั้นเอง ถ้าหากเราไม่ปิดปลั๊กหม้อน้ำน้ำก็จะไหลออกทางหม้อน้ำทั้งหมด ทำให้เราไม่สามารถล้างสิ่งที่ติดอยู่ในตัวเครื่องยนต์ให้สะอาดได้ หลังจากที่เรามั่นใจว่าน้ำที่ไหลออกมาจากด้านข้างเครื่องสะอาดแล้วเราก็จะเปิดปลั๊กใต้หม้อน้ำใหม่อีกรอบหนึ่ง หลังจากที่เราเปิดปลั๊กแล้วก็เติมน้ำเพื่อล้างหม้อน้ำอีกครั้ง และเมื่อล้างหม้อน้ำเสร็จให้เราปิดปลั๊กและเติมน้ำอีกครั้งที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมาหลาย รอบก็เพราะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์ของเราจะสะอาดแน่นอน และในรอบนี้ให้หลังจากที่เราปิดปลั๊กหม้อน้ำแล้วนั้นให้เราปิดปลั๊กที่ข้างเครื่องด้วย หลังจากเราปิดทั้งสองด้านแล้วก็ให้เติมน้ำเปล่าเข้าไปเมื่อเติมจนเต็มแล้ว ก็ให้เอาปลั๊กออกจากข้างเครื่องรอบนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าน้ำที่ไหลออกมาจะมีสีที่ใสขึ้นซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่ามีตะกอน สนิม หรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในเครื่องเราน้อยลงไปมาก ในขณะนี้เราจะเปิดน้ำให้ไหลออกทางด้านข้างเครื่องโดยที่ยังปิดปลั๊กใต้เครื่องไว้ เพื่อให้ล้างสิ่งสกปรกและล้างน้ำยาล้างเครื่องที่คิดอยู่ภายในเครื่องให้ออกให้หมดถ้าไม่เช่นนั้นน้ำยาล้างเครื่องที่ล้างออกไม่หมดและสะสมไปนานๆ อาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับการกัดกร่อน ทำอย่างเดิมซ้ำไปซ้ำมานั่นคือ ปิดฝาใต้เครื่องยนต์เติมน้ำแล้วปล่อยให้น้ำไหลออกข้างเครื่องยนต์ สลับกับเปิดทั้งข้างใต้เครื่องยนต์และดานข้างไว้ทั้งสอบฝั่งแล้วเติมน้ำแล้วคอยเช็คดูว่าน้ำที่ไหลออกแต่ละฝั่งนั้นมีความใสใกล้เคียงกันหรือไม่ถ้าหากมีความใสใกล้เคียงกันแล้วก็ให้เราปิดฝาทั้งสองด้าน เมื่อปิดเรียบร้อยแล้วให้เราเติมน้ำยาหม้อน้ำแบบทองแดงชนิดที่ต้องผสมกับน้ำเปล่า แต่ถ้าเป็นหม้อน้ำแบบอลูนิเนียมาสามารถเติมน้ำได้เลยโดยที่ไม่ต้องผสมน้ำเพราะเป็นน้ำยาสำเร็จรูป เมื่อเติมน้ำยาหม้อน้ำเสร็จแล้วให้เติมน้ำเปล่าลงไปจนเต็มถังและปิดฝาหลังจากนั้นก็สตาร์ทเครื่อง ก็ถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นการล้างเครื่องยนต์แบบทองแดง แต่ถ้าเป็นแบบอลูมิเนียมนั้นก็จะมีวิธีล้างที่เหมือนกันทุกประการเพียงแต่ต่างกันที่น้ำยาล้างเท่านั้น เพราะฉะนั้นก่อนจะทำการล้างควรเลือกน้ำยาล้างหม้อน้ำให้ตรงกับประเภทของรถยนต์ด้วย